บทที่ 5

กลยุทธ์การสู้กับนักลงทุนกลุ่มต่างๆในตลาด

                                                  ในตลาดหุ้น มีนักลงทุนกลุ่มใหญ่อยู่ 4กลุ่ม
Cr. www.set.or.th

1."สถาบันในประเทศ" กลุ่มนี้มักเป็นกลุ่มธนาคารกองทุนต่างๆที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
 กองทุนtrigger กองทุนลดภาษีLTF RMF
.     กลุ่มนี้ชอบมีนิสัยซื้อรวดเดียว หรือเทกระจาดรวดเดียว ไม่ชอบทำลับๆล่อๆ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่คอยพยุงตลาด เวลาหุ้นตกแรงๆเมื่อไหร่ กลุ่มนี้ชอบซื้อ ซึ่งมักส่งสัญญาณการกลับตัวขึ้นของหุ้น

2."บัญชีหลักทรัพย์""โบรกเกอร์""ป๊อบเทรด"หรือชอบเรียกว่า "ปอบ" นอกจากแนะนำพวกเราแล้ว เขายังเล่นหุ้นอีกด้วย
.     กลุ่มนี้ฉลาดเฉลียว เร็วอย่างกับนักวิ่งโอลิมปิก ไม่เคยถือหุ้นนาน ได้กำไรเมื่อไหร่ขายออกหมด กลุ่มนี้มีผลกับตลาดหุ้นมากๆในระยะไม่กี่ปีนี้ กลุ่มนี้มักเป็นคนคุมราคาหุ้น ถ้ารู้ข่าวอะไรชอบเก็บเงียบ หรือไม่ก็ปล่อยข่าวร้ายให้คนขายหุ้นทิ้ง พอได้เวลาลากหุ้นกระจุย ไม่มีคนตามทัน แล้วมาปล่อยข่าวดีตอนราคาขึ้นมาแพงแล้ว ทำให้คนติดราคาสูงค่อนข่างเยอะ (แต่ที่เขาแนะนำถูกก็มีนะแต่น้อย)
บางที่พื้นฐานไม่มีแต่มีข่าวซะอย่าง หุ้นก็ขึ้นลงแรงๆได้เพราะปอบ "ระวังตัวนี้ที่สุด"


3."นักลงทุนต่างชาติ"กลุ่มนี้ดันดัชนีตัวจริง เวลาเข้าตลาดหุ้นจะเข้ามาด้วยเงินลงทุนมหาศาล ทำตลาดหุ้นคึกคักกันไปเลย แต่ระยะหลังนี้ ต่างชาติเขามองเห็นว่าบ้านเราเริ่มมีปัญหาการเงิน เลยถอนเงินออกไปเยอะมากๆๆๆๆ
ตอนนี้นักลงทุนกลุ่มนี้แทบไม่มีผลกับตลาดหุ้นแล้ว
คงรอให้ฝรั่งกลับมาอีกครั้ง


4."นักลงทุนรายย่อย""จ้าว+แมงเม่า" นักลงทุนกลุ่มนี้มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กๆ
มีคนดูถูกดูแคลนว่า รายย่อยชอบขายหมู ติดดอย
.       แต่ผมว่าหลังๆไม่ใช่ รายย่อยซื้อตอนราคาต่ำๆตลอดพอราคาสูงรายย่อยเริ่มขาย จากการผ่านบทเรียนเจ็บปวดตอนSETลงจาก 1650เหลือ 1200 ทำให้เม่าหลายคน มีความรู้ มีพลังอันสูงส่ง และสถาปนาตัวเองเป็น พญาปลวก และร่ำรวยตามๆกันไป แต่อีกหลายคนก็เป็นเม่า ติดดอย ขายหมูเช่นเดิม 555




กลยุทธ์การสู้กับปอบ (ป๊อบเทรด)

ปอบอาละวาดเราจะทำยังไง??



1.ปอบก็คือบริษัทหลักทรัพย์ที่ออกบทวิเคราะห์ให้เรานั่นแหละ   เค้าก็หาเงินในตลาดหุ้นด้วยนะ ตัวนี้แหละตัวแสบ   เก่งมากๆ ระยะไม่กี่ปีที่ฝรั่งเริ่มหมดอิทธพลต่อตลาดหุ้น ตลาดหุ้นก็ขึ้นลงกับปอบที่แหละ

2.หลายปีที่ผ่านมา(ไม่ต่ำกว่า10ปี) ปอบจะซื้อหุ้นและถือไม่เกิน10,000ล้านบาท ไม่นานก็ขายทิ้ง ภายในเวลา1เดือน    เวลาซื้อจะซื้อรวดเดียว1-2สัปดาห์ เวลาขายก็ขายรวดเดียวเช่นกัน   ถึงเงินจะไม่เยอะแต่มีผลกับราคาหุ้นมากๆ

3.ต้องยอมรับว่า เมื่อปอบอยากขายหุ้นจะปล่อยข่าวดี ให้คนมาซื้อหุ้นเยอะๆ ซึ่งราคามักขึ้นไปสูงแล้ว
        กลับกันมักปล่อยข่าวร้ายเมื่อหุ้นลงมากๆ ทำให้มีเม่าขายหุ้นลงมา ปอบรับทรัพย์จ้า

4.อยากชนะปอบต้องใจเย็น อย่าเชื่อข่าวลือ อย่าตกใจ เวลาหุ้นขึ้นมาสูงอย่าคึก เวลาหุ้นลงแรงเกินเหตุอย่ากลัวที่จะซื้อ ท่องไว้ๆ"ขึ้นขาย ลงซื้อ     

"ปอบมันใช้วิชาสะกดจิตระวังด้วยนะเพื่อนๆ 55

5.เทคนิคช่วยให้เราหลุดพ้นจากวิชาสะกดจิต เทคนิคคอลแทบไม่เคยโกหก RSIมากกว่า70แพง
RSIต่ำกว่า30ถูก MACDตัดขึ้นซื้อ MACDตัดลงขาย

.    ถ้าปอบมันไม่ปล่อยข่าว คิดว่ามันจะได้ตังค์เรอะ

6.ต้องไว ปอบมันไวมาก เพราะฉะนั้นจะแพ้ปอบก็ไม่เปนไร   ก็มันเก่งมากๆ ท่องไว้ๆ 
                               "ขายหมูไม่ได้กำไร ก็ดีกว่าขาดทุน"

7.ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่าไปซีเรียสกับหุ้นมาก เชื่อผม


กลยุทธ์การสู้กับเงินทุนต่างชาติ "fund flow"

Cr. www.stock2morrow.com


        ต่างชาติเป็นนักลงทุนระยะยาวซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ผีเข้าผีออกแบบปอบ 
การจับทางต่างชาติง่ายนิดเดียว เพราะต่างชาติจะมีนิสัย ช๊อบกระจาย เข้ามาด้วยเงินมหาศาล
       และเป็นเวลานาน แต่เวลาขายก็เทกระจาดเช่นเดียวกัน
ระหว่างนั้นอาจมีการขายทำกำไรบ้าง ซึ่งมักขายตามข่าว เช่น วิกฤติหนี้กรีซบ้าง ประท้วงบ้าง น้ำท่วมบ้าง ยึดอำนาจบ้าง
        เมื่อมีfund flow เข้ามา ก็เข้าตามเลย แต่ถ้าfund flow ออกก็อย่าไปยุ่ง
อันตรายมาก

.    ฝรั่งพวกนี้จะเข้าเฉพาะหุ้นพื้นฐานดีๆ ขนาดใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักอยู่ใน SET50 หรืออาจมีSET100 บางตัว
        โดยก่อนที่ฝรั่งจะดันราคาหรือจะทุบหุ้น เขามักทำการเก็งกำไรผ่านทาง ตลาดTFEX หรือ Future ที่ได้ผลตอบแทนต่างจากตลาดจริงประมาณ10เท่า 
                                          ถ้าเขาLong position ไว้มากๆ หุ้นมักจะขึ้น 
                                          แต่ถ้าShort position ไว้มากๆหุ้นก็จะลง
                                         รอมาจะ3ปีละ Fund flow ไม่มาสักที เห้อ!!


กลยุทธ์สู้กับกองทุน


กองทุนหุ้นคือหน่วยงานที่รับบริหารเงินทุนจากภาครัฐและคนธรรมดาอย่างเราๆ 
มาลงทุนในตลาดหุ้น โดยมีคนดูแลคอยจัดการกองทุน

กองทุนหลักที่มีผลต่อตลาดหุ้น คือ 
1. กองทุนภาครัฐ (ตัวนี้ซื้อขายน้อยมาก กองทุนประกันชีวิต กองทุนวายุภักษ์) 
2. กองทุนเปิดตลาดเงิน (กองทุนนี้มีเงินมหาศาล รับเงินจากลูกค้ามาบริหาร ซื้อขายผ่านทางธนาคารเป็นส่วนใหญ่ และอีก2กองทุนก็เช่นกัน) 
3. กองทุนTrigger Fund (กองทุนมีการระดมทุนเมื่อตลาดหุ้นลงแรงๆ โดยถ้าราคาถึงระดับกำไรที่ตกลงกำไรกับลูกค้าแล้ว กองทุนจะเทขายหุ้นทันที ผลตอบแทนอยู่ประมาณ 5-10%)
4.กองทุนลดภาษี LTF RMF กองทุนนี้มีเงินมหาศาลเช่นกัน
โดยกองทุนนี้ลูกค้ามักถือกันเพื่อลดภาษี โดยตามเงื่อนไข 5ปีพ.ศ. แต่ถ้าซื้อธันวา-ขายมกรา ก็นับเป็น2ปี พ.ศ.แล้ว ทั้งที่จริงๆแค่1เดือน ทำให้ช่วงเวลา พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ มีเงินในกองทุนเข้ามาซื้อขายกันอย่างคึกคัก

. "กลยุทธการสู้กับกองทุน"
กองทุนมีเงินมหาศาล แต่เวลาเข้าออกหุ้นจะไม่หวือหวา แต่จะค่อยเป็นค่อยไป เมื่อหุ้นลงแรงๆเมื่อไหร่ กองทุนนี่แหละจะเป็นคนที่จะพยุงหุ้นไว้ โดยเฉพาะ Trigger fund แต่ถ้าราคาแพงไปกองทุนก็พร้อมจะขายลงมาเช่นกัน คอยสกัดไม่ให้หุ้นขึ้นเร็วเกินไป 

ระยะหลังพบว่าการซื้อขายของกองทุนมักมีผลต่อการกำหนดทิศทางหุ้นได้เลย
ดังนั้นถ้าเราจับทางได้ว่า กองทุนจะขาย เราก็ขายออกมาก่อน แต่ถ้ากองทุนจะซื้อ ก็ซื้อตัดหน้าไปเลย
โดยส่วนหนึ่งดูจากข่าว ว่า มีTrigger fund เปิดใหม่ หรือ กองทุนอะไรจะมาซื้อหุ้นบ้าง หรือTrigger fund ถึง ราคาเป้าหมายแล้ว กำลังจะขาย ส่วนเทคนิคอลก็ช่วยได้ระดับนึง
"จับทางกองทุนให้ได้ กำไรแน่นอน"

 "กลยุทธการสู้กับรายย่อย(กันเอง) 555"
Cr. www.maoimvestor.com

รายย่อยมีเงินเยอะที่สุดในตลาดคับ อย่าดูถูกไป เยอะกว่านักลงทุนประเภทอื่นรวมกันซะอีก
แต่ทำไมนักลงทุนกลุ่มนี้ถึงจะไม่มีผลต่อการกำหนดทิศทางหุ้นเลย
.           จริงๆแล้วนักลงทุนรายย่อย ไม่ได้มีแต่เม่านะครับ มีเทพบ้าง มีจ้าวมือหุ้นบ้าง
แต่พวกเราไม่สามัคคีกันครับ ต่างคนต่างอยากได้กำไร บางคนจะซื้อ บางคนจะขาย หุ้นก็ไม่ไปไหนกันพอดี
(อย่าว่าแต่ไทยเลย ประเทศอื่นเค้าก็เป็บแบบนี้แหละครับ 555)
และรายย่อยมีจุดอ่อน คือ "อารมณ์" ที่นักลงทุนกลุ่มอื่นเค้าไม่ค่อยมีกัน เพราะเค้ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี

. นอกจากนี้ในตลาดยังมีหุ้นที่ไม่ถูกควบคุมโดยกองทุน ปอบและต่างชาติ นั่นก็คือหุ้นตัวเล็ก บางตัวอาจจะเป็นหุ้นปั่น พวกนี้เป็นหุ้นมีจัาว คอยคุมราคาหุ้น จ้าวมีเงินเยอะครับ สามารถควบคุมราคาหุ้นได้ โดยมักเป็นคนที่รู้ข่าววงในบริษัท

. นอกจากนี้ยังเป็นนักปล่อยข่าวตัวยงซะด้วย หุ้น ถ้ามีข่าวมากระทบ ราคาหุ้นก็ไปซะแล้ว ทั้งๆที่บางทีก็ไม่ใช่ความจริง และกลเม็ดเด็ดของจ้าวคือ กลยุทธ"บีบคั้นเม่า" และกลยุทธทำให้เม่าตายใจ อันนี้บอกเลยมาเทพจริงๆ ใครเคยเล่นหุ้นปั่นจะรู้ ว่าจะได้กำไร(ในระยะยาว)จากหุ้นปั่นนั้นยากมาก
"ค่อยๆเก็บประสบการณ์จากตลาดหุ้นครับ แล้วสักวันคุณจะเก่งเอง" (ถ้าไม่ล้มเลิกซะก่อน อีโมติคอน kiki )



1 ความคิดเห็น:

  1. ดีมากเลยครับ การเขียนน่าอ่านมากครับ อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ
    ผมก็เพิ่งลงมือเขียนบล็อกเกี่ยวกับหุ้นเหมือนกันครับ ใช้นามแฝงว่า ก๊อปปี้เทรดเดอร์

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม